ผมคิดอย่างไรกับภาพ 'ภิกษุสันดานกา'
จิด-ตระ-ธานี : ๒๐ ต.ค. ๒๕๕๐



ภิกษุสันดานกา : สีอะคริลิกบนจีวร โดย อนุพงษ์ จันทร ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง จากงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๓



หมา-นุษย์ : (อีกภาพที่มีปัญหา) สีอะคริลิกบนจีวร โดย อนุพงษ์ จันทร


       ถ้าใครติดตามข่าวสารบ้านเมืองตั้งแต่วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๐ เป็นต้นมา นอกเหนือจากข่าวการเมืองและอาชญากรรมที่ฟังจนชินชาแล้ว ยังมีอีกข่าวหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อวงการศิลปะไทยอย่างครึกโครม ต้นเหตุมาจากภาพวาดที่ชื่อ 'ภิกษุสันดานกา' ซึ่งเป็นภาพที่ได้รางวัลชนะเลิศอันดับ ๑ เหรียญทอง ประเภทจิตรกรรม จากงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ ๕๓ วาดโดย นายอนุพงษ์ จันทร เนื้อหาในข่าวมีใจความโดยสรุปประมาณนี้

      พระนิสิตจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) นำโดย พระมหาโชว์ ทัสสนีโย รอง ผอ.สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ พร้อมด้วยพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน ประมาณ ๑๐๐ คน เดินทางมายื่นหนังสือขอให้ระงับการแสดงภาพ 'ภิกษุสันดานกา' ต่ออธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เนื่องจากเห็นว่า ภาพดังกล่าวเป็นการลบหลู่พระสงฆ์

       ทางองค์กรชาวพุทธเห็นว่า ภาพดังกล่าวมีการสะท้อนเกี่ยวกับพระสงฆ์ ที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ทั้ง ๒ รูป เอาหัวชนกันหลับตาทั้ง ๒ รูป มีปากแหลมเหมือนปากของอีกา ซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉาน โดยพระทั้ง ๒ รูป กำลังแสดงกิริยาแย่งด้ายสายสิญจน์และตะกรุดในบาตร ทำให้สังคมเข้าใจว่าพระสงฆ์สอนให้ประชาชนงมงาย ขณะที่บริเวณร่างกายของพระภิกษุ มีการสักยันต์เป็นรูปกบอยู่ในท่าผสมพันธุ์ ทั้งยังมีภาพตุ๊กแกอยู่ในท่ากำลังผสมพันธุ์ด้วย ส่วนในย่ามในภาพดังกล่าวมีลูกกรอก แสดงถึงความเป็นเพศชายและเพศหญิง โดยผู้หญิงกำลังถ่างขา อยู่ในท่าการมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ

'คณะสงฆ์ได้ศึกษาพระไตรปิฎกเกี่ยวกับภิกษุสันดานกาแล้ว ไม่ได้มีการกล่าวถึง การมีเพศสัมพันธ์กันอย่างถึงพริกถึงขิงขนาดนี้'

องค์กรชาวพุทธพิจารณาแล้วเห็นว่า มีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาโดยตรง เป็นการดูหมิ่นและเหยียดหยามพระสงฆ์ไทย เป็นการสื่อให้เห็นว่า พระสงฆ์มีพฤติกรรมเป็นเหมือนในภาพ เป็นการสอนสังคมให้เกิดความลุ่มหลงต่อไสยศาสตร์แบบหลับหูหลับตาโดยไม่ใช้ปัญญา 

(ซ้าย) พระธนพล เขมปัญฺโญ จากวัดบุญเกิด จ.อ่างทอง นั่งประท้วงที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้ ม.ศิลปากร ระงับการแสดงภาพ ภิกษุสันดานกา

       "องค์กรชาวพุทธขอเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยศิลปากร ระงับการแสดงภาพดังกล่าวทุกสถานที่ ถ้าหากว่าไม่มีการระงับการแสดงภาพดังกล่าว องค์กรชาวพุทธทุกองค์กรจะได้ยื่นเรื่องถึงศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาระงับอย่างเป็นทางการ รวมทั้งจะได้ส่งเรื่องและภาพถึงคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อให้ช่วยพิจารณาต่อไป" นายเสถียรกล่าว
       ขณะที่ พระธีรวิทย์ ฉนฺทวิชฺโช ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์ พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในพระไตรปิฎกในเรื่องภิกษุสันดานกา เป็นการเปรียบเทียบว่าพระสงฆ์ที่ประพฤติตัวไม่ดี ว่าเหมือนกาเท่านั้น ไม่ได้มีการระบุภาพถึงการผสมพันธุ์ของสัตว์ต่างๆ ที่เหมือนภาพของนายอนุพงษ์ อีกทั้งยังพบว่าในการวาดภาพดังกล่าว ยังใช้จีวรของพระสงฆ์ขึงในการเขียนภาพ ถือว่าเป็นการเหยียบย่ำเครื่องนุ่งห่มของพระสงฆ์ 'การนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่ เหมือนกับจะบอกว่าพระสงฆ์ของไทยมีลักษณะเช่นเดียวกับภาพวาดดังกล่าว'

       หลังตามข่าวอยู่ซักระยะ ผมก็ได้รับการสอบถามผ่านทาง email จากคุณศิริรัตน์ ซึ่งเป็นนักศึกษา ม.กรุงเทพ และ ม.รามคำแหง เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๐ ว่าผม "คิดอย่างไรกับภาพวาดดังกล่าว...คะ" เพราะโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าศิลปินสื่อได้ชัดเจน แต่ทำไมมีเสียงคัดค้านเยอะจัง??

       ตามความเห็นของผม มันเป็นการมองกันคนละมุมมากกว่า เพราะโดยส่วนตัว ผมไม่ได้คิดว่าการแสดงออกทางศิลปะของอนุพงษ์ เป็นการลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาพุทธ เช่นที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด และมิใช่ว่า....ผมจะเข้าข้างรุ่นน้อง หรือคนที่ทำงานศิลปะด้วยกัน แต่เจตนาในการสร้างผลงานของ อนุพงษ์ ต้องการสะท้อนภาพมุมมืดในวงการผ้าเหลืองไทย (บางกลุ่ม) มากกว่า เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา คุณคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มีกาฝากและเหลือบริ้นเข้ามาแอบแฝงอยู่ในวงการสงฆ์มากเพียงใด ผมได้รับฟังแล้วยังเศร้าใจ กับข่าวหน้าหนึ่งบัดสีจากอลัชชีพวกนั้น ศิลปินเพียงจับประเด็นและนำมาชี้ให้เห็นผ่านงานศิลปะเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงพระสงฆ์ทั้งหมด แล้วพวกคุณจะมาเดือดร้อนกันไปทำไม?

ทางฝ่ายศิลปวัฒนธรรม สำนักอธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เผยแพร่เอกสาร สรุปข้อร้องเรียน และข้อคิดเห็นจากพระสงฆ์ และปัญญาชนสยามในแขนงต่างๆ อาทิ พระพยอม กัลยาโณ หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศจ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก ว.วชิรเมธี ส.ศิวรักษ์ ฯลฯ
     สนใจ คลิกที่นี่ อ่านได้ครับ เป็นไฟล์ PDF download PDF ขนาด 4.33 MB มีทั้งหมด 44 หน้า

       แต่ถ้ามองอีกประเด็น ผมว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกัน ที่มีการออกมาคัดค้านจนเกิดกระแสแบบนี้ เพราะจะได้เป็นแรงกระตุ้นให้คนในสังคมไทยหันมามอง และแตกประเด็นทางความคิด เพื่อช่วยกันจับตา หาทางออก และขับไล่ พวกกาฝากอลัชชีเหล่านี้ ให้หมดไปจากวงการพระสงฆ์ไทยเสียที ไม่ได้มามัวแต่นั่งปิดหูปิดตา ทำเป็นไม่รับรู้ หรือถึงขนาดรับไม่ได้แบบนี้

       ผมเคยพบกับอนุพงษ์ในงานนิทรรศการแสดงศิลปะอยู่ ๒-๓ ครั้ง อนุพงษ์เป็นชายหนุ่มร่างเล็ก แววตาซื่อๆ พูดไม่ค่อยเก่ง พอเจอกัน ผมก็ทักว่าเป็นไงมั่ง 'น้องเปรต' เป็นเรื่องหยอกกันครับ เพราะเขามีชื่อเสียงในการวาดภาพคว้ารางวัลด้วยภาพเกี่ยวกับ 'เปรต' แต่อนุพงษ์ก็มีฉายาที่ได้จาก ม.ศิลปากร ว่า 'ทิฟฟี่' เป็นชื่อยี่ห้อยาแก้ปวด ฟังดูตลกดี

อนุพงษ์ ชาตะวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๒๓ พื้นเพเป็นคน จ.ปราจีนบุรี (แต่ยังไม่มรณะ อย่างที่ผู้ประท้วง ชูป้าย พร้อมพวงหรีด (ฮา...ไม่ออก) ยังมีอนาคตอีกไกลครับ)

       ผมเคยถามถึงผลงานชิ้นหนึ่งชื่อ 'ลูบหัวไม่มีหาง' ว่าทำไมถึงได้คิดอะไรแปลกๆ เอาผ้ามุ้งมาขึงแทนผ้าใบแล้ววาดรูป อนุพงษ์ตอบว่า "ผมต้องการสื่อถึงเรื่องในมุ้ง" อ้อ....ผมก็เลยถึงบางอ้อ และการนำจีวรพระมาขึงแทนผ้าใบนี้ ก็เป็นเพียงการใช้สัญลักษณ์มาสื่อแทนความคิดเท่านั้นเอง ปัจจุบันอนุพงษ์บรรจุเป็นอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิจิตรศิลป์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง น่าดีใจกับน้องครับ เพราะผ่านการล่ารางวัลมาหลายเวทีอย่างโชกโชน แต่คราวนี้ผมคิดว่า คงจะให้แง่คิดและบทเรียนแก่อนุพงษ์พอสมควร ในการทำงานครั้งต่อไป ซึ่งอาจมีผลกระทบแบบคาดไม่ถึงอย่างนี้อีก เพราะมวลชนมีหลายความคิด หลากอารมณ์ ชวนให้ปวดหัวดีแท้ มาดูผลงานชิ้นอื่นๆ ต่อดีกว่า

ภาพ 'ก้อนทุกข์' สีอะคริลิกบนจีวร (รางวัลเหรียญทอง จิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ ๒๖)

อธิบาย : ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา กล่าวถึงสัตว์นรกชนิดหนึ่ง เป็นผู้ประพฤติผิดในกาม พอสิ้นชีพ ก็ต้องมาชดใช้กรรมโดยมีอัณฑะใหญ่โต และทนแบกอยู่อย่างนี้ด้วยความทุกข์ทรมาน (เสียดายผมไม่มีภาพโบราณมาเทียบให้ดู แต่ของโบราณดูจะสยดสยองกว่า)

 

จริงๆ ถ้าผลงานของอนุพงษ์ เป็นการจาบจ้วง ลบหลู่ ดูหมิ่น อย่างที่กลุ่มประท้วงอ้างจริง ผมว่าไม่จำเป็นต้องรอให้พวกคุณเหนื่อย ออกมาเดินขบวนตากแดดโห่ร้องกันหรอกครับ เพราะรุ่นพี่ๆ อย่างพวกผม จะเป็นฝ่ายกระทืบน้องมันก่อนแน่นอน.....

จิด-ตระ-ธานี

ภาพ 'ผ้าเหลือง' (รางวัลที่ ๓ รางวัลศิลปกรรม อมตะ อาร์ต อวอร์ด)


Back to Top
   



    อลังการ 'ศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ ๕' (๓๑ ม.ค. ๒๕๕๑)  
    'ศิลปินในดวงใจ' ของ วัชระ กล้าค้าขาย (๓๐ ม.ค. ๒๕๕๑)  
       
    ธรรมะร่วมสมัยกับ 'ดังตฤณ' vs อภิญญาญาณของหนุ่ม 'ริชชี่' (๑๓ พ.ย. ๒๕๕๐)  
    'เพ้อเจ้อ' ตามประสา ประทีป คชบัว (๑๓ พ.ย. ๒๕๕๐)  
    ผมคิดอย่างไรกับภาพ 'ภิกษุสันดานกา' (๒๐ ต.ค. ๒๕๕๐)